กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีคืออะไร ภาพรวมและกลยุทธ์ – Intel

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีเป็นวิธีการแบบองค์รวมในการเตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต

ภาพรวมการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที:

  • การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีเป็นการยกระดับกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และแนวปฏิบัติขององค์กรในการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต

  • การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีที่ประสบความสำเร็จจะนำมาซึ่งความยืดหยุ่น ความสามารถในการจัดการ ต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำ ความปลอดภัยและความสามารถในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบนิเวศที่รวดเร็วขึ้น

  • โดยการมุ่งเน้นความพยายามของคุณในจุดเหล่านี้ จะทำให้คุณสามารถสนับสนุนประสิทธิภาพด้านไอที การจัดการความเสี่ยงด้านไอทีและการจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีคืออะไร

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีเป็นกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังการเตรียมความพร้อมด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบและแนวปฏิบัติของคุณเพื่อรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณยังคงอยู่ในการแข่งขัน ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่เป็นแค่เพียงการอัปเกรดไปสู่สถาปัตยกรรมไอทีล่าสุดและยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ชาญฉลาดไปกับการประมวลผล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและเลเยอร์เครือข่าย เพื่อบรรลุความสมดุลที่ลงตัวระหวา่งต้นทุน ประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมความสามารถในการขยายเพิ่มเมื่อจำเป็น

การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับบุคลากรในองค์กรของคุณ คุณลักษณะทางวัฒนธรรมของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีที่ไม่อาจมองข้ามได้: บุคลากรคือหนึ่งในเสาหลักของธุรกิจ หากไม่มีการสร้างความตระหนักในการสนับสนุนและความตื่นเต้น หัวหน้าโครงการอาจพบว่าเพื่อนร่วมงานอาจกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น เมื่อทุกคนรู้สึกถึงความกระตือรือร้นร่วมกันสู่การเปลี่ยนแปลง ผู้จัดการโครงการจะพบกับพลังความสร้างสรรค์และทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อรักษาการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีจะประสบความสำเร็จ

ด้วยภูมิทัศน์ด้านไอทีใหม่ๆ เช่น การประมวลผลบนคลาวด์ บริษัทขนาดเล็กกำลังปะทะกับองค์กรขนาดใหญ่ บางครั้งด้วยความคล่องตัวที่มากกว่า ขณะเดียวกัน องค์กรก็กำลังลงทุนกับเครื่องมือขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ที่คาดคะเนเพื่อที่จะก้าวนำเทรนด์ในตลาด เหนือสิ่งอื่นใด ธุรกิจต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับแรงปะทะจากภายนอกเพิ่มมากขึ้น เช่น ข้อกังวลด้านสุขภาพทั่วโลกอย่างการระบาดของโควิด 19 ที่ต้องการโซลูชั่นที่รวดเร็วและสร้างสรรค์เพื่อรักษาประสิทธิผลการทำงาน การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีที่ประสบความสำเร็จจะเตรียมพร้อมธุรกิจของคุณให้รับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้และยังคงอยู่รอด

ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที

ขณะที่แบบแผนการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีมีความเฉพาะตัวสำหรับธุรกิจของคุณ แต่ประโยชน์โดยรวมที่ได้รับเป็นสิ่งที่เป็นสากล คุณสามารถใช้แต่ละประเด็นต่อไปนี้เป็นตัววัดความสำเร็จ หรือเริ่มต้นที่นี่เพื่อกำหนดตัวชี้วัดที่เฉพาะเจาะจง (KPIs) ในแนวคิดริเริ่มการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีและการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย

  • สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจและเข้าถึงตลาดอย่างรวดเร็ว พัฒนาและใช้บริการได้อย่างรวดเร็วและปรับประสิทธิภาพด้านไอทีให้สอดคล้องรองรับนวัตกรรมใหม่ได้โดยไม่กระทบกับประสิทธิผลการทำงาน
  • สนับสนุนความสามารถในการจัดการที่ง่าย จัดหาเวิร์กโหลดอย่างชาญฉลาดและกำหนดนโยบายองค์กรด้านไอทีทั่วทั้งเครือข่าย
  • แก้ไขปัญหาความท้าทายของโครงสร้างพื้นฐานไอทีรุ่นเก่า จัดการปิดช่องว่างและปัญหาคอขวดของบริการด้านไอที ลดภาระหนี้ทางเทคนิค แตกย่อยการทำงานกับข้อมูลแบบไซโล และเพิ่มความสามารถในการจัดการของอุปกรณ์ปลายทาง
  • บรรลุต้นทุนที่ต่ำ จาก edge สู่ core สู่ศูนย์ข้อมูล มอบการจัดการต้นทุนด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพ รองรับการปรับขยายในอนาคตด้วย OpEx ที่ต่ำและคืนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างรวดเร็ว
  • ยกระดับความปลอดภัยและความเสถียร ป้องกันความปลอดภัยจากแฮคเกอร์ ระบุการคุกคามก่อนเกิดความเสียหาย ลดความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น และปรับการจัดการแพตช์ที่ง่ายขึ้นเพื่อปกป้องอุปกรณ์ปลายทาง

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีต้องอาศัยวิธีการแบบองค์รวมร่วมกับการลงทุนที่พิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงกลยุทธ์ที่ไตร่ตรองแล้วที่ออกแบบมาเพื่อคาดคะเนและตอบสนองความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงในอุตสาหกรรมของคุณ

ขั้นตอนสู่การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที

จากมุมมองจากมุมสูง การพัฒนาแผนงานการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีคือขั้นตอนแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง หากคุณทำงานกับผู้ให้บริการที่มีการจัดการหรือที่ปรึกษาด้านไอทีอื่นๆ การพูดคุยสนทนาในขั้นต้นคือจุดเริ่มต้นที่ดี นอกจากนี้คุณยังต้องการยกระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจของคุณกับซัพพลายเออร์และผู้ขาย เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนประกอบต่างๆ ที่คุณต้องการตามแผนการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีที่เฉพาะเจาะจงของคุณ Intel สามารถช่วยให้ คำแนะนำและติดต่อประสานงานให้คุณได้

  1. เข้าใจความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม: การสร้างความกระตือรือร้นสู่การเปลี่ยนแปลงภายในทีมภายในเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เตรียมพร้อมกับการเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่จะได้รับ อาทิ ความคล่องตัว ประหยัดต้นทุนและการเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการในอนาคต และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในขั้นต้นที่ช่วยแสดงถึงมูลค่าธุรกิจที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที
  2. ปรับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกัน กำหนดวิสัยทัศน์ของคุณและพิจารณาว่าความสามารถด้านไอทีใดที่คุณจำเป็นเพื่อที่จะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ ขั้นตอนนี้ยังประกอบด้วยการได้รับความร่วมมืออย่างกว้างขวางในแนวคิดริเริ่มการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีจากผู้นำและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่สำคัญในองค์กรของคุณ
  3. กำหนดเป้าหมายระยะยาวด้านไอที: อะไรคือตัวชี้วัดความสำเร็จของคุณ เป้าหมายระยะยาวควรเชื่อมโยงกับกรอบเวลาที่เจาะจงและมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อให้มั่นใจว่ามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
  4. พัฒนากลยุทธ์: การนำการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีไปใช้ จำเป็นต้องมีกระบวนการแบบทีละขั้นตอนในการปรับระบบไอทีใหม่ให้สอดคล้องกันกับการลงทุนเดิมโดยไม่กระทบต่อประสิทธิผลการทำงาน ค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่าคุณจะไปจากจุด A ไปยังจุด B ได้อย่างไรโดยไม่ทำให้บริการหยุดชะงัก
  5. ตัดสินใจการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐาน: จับคู่เป้าหมายด้านไอทีของคุณกับการลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นเพื่อสนับสนุน สำหรับองค์กรส่วนใหญ่ ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของการใช้วิธีการมัลติคลาวด์แบบไฮบริด
  6. เริ่มทดลองและใช้เทคโนโลยีใหม่: นี่เปรียบเสมือนจุดที่ยางสัมผัสกับถนน ในระหว่างและหลังจากการนำไปใช้ การหยุดคิดพิจารณาทบทวนเป็นสิ่งสำคัญในการวัดผลว่าตรงตามตัวชี้วัดความสำเร็จหรือไม่ และเพื่อหาวิธีการปรับเปลี่ยนและปรับปรุงข้อบกพร่องเชิงวิธีการ

จุดที่ควรมุ่งเน้นในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีที่ประสบความสำเร็จ

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีเป็นวิธีการที่มีหลายแง่มุมที่ต้องพิจารณาอย่างลึกซึ้งในหลายหมวดหมู่ของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความสามารถในการทำงานเข้ากันได้ระหว่างระบบ เครือข่ายและนโยบายธุรกิจ จุดที่ควรมุ่งเน้นต่อไปนี้ครอบคลุมรากฐานส่วนใหญ่และสามารถช่วยปรับจุดที่คุณควรใช้ความพยายามในการวางแผนให้ง่ายขึ้น

รวมแคมเปญการสร้างความตระหนักรู้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่คล่องตัว

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีวัฒนธรรมที่สนับสนุน เพื่อให้บุคลากรตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคืออธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า ปัญหาที่เฉพาะเจาะจงในหน่วยธุรกิจใดๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที สนับสนุนการตระหนักรู้ด้วยการจัดการโครงการแบบคล่องตัว ซึ่งจะช่วยให้คุณแสดงให้เห็นมูลค่าทางธุรกิจในขั้นต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น แผนกไอทีของ Intel ใช้ Agile เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในขั้นต้น ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Cyber Intelligence ที่ปรับปรุงใหม่ของเรา ด้วย Agile ทำให้แผนกไอทีของ Intel ไม่ต้องรอจนสิ้นสุดโครงการเพื่อแสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่ได้รับ

ใช้วิธีการมัลติคลาวด์แบบไฮบริด

วิธีการมัลติคลาวด์แบบไฮบริดรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดจากทรัพยากรคลาวด์ส่วนตัวของคุณกับคลาวด์สาธารณะเข้าด้วยกัน คลาวด์ส่วนตัวที่ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (SDNs) และฟังก์ชั่นเครือข่ายเสมือน (VNFs) รวบรวมแต่ละอุปกรณ์ประมวลผล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและทรัพยากรเครือข่ายของคุณไว้ในพูลเดียวกัน ซึ่งทำให้ง่ายในการจัดสรรเวิร์กโหลดโดยไม่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้ง โดยการเพิ่มบริการคลาวด์สาธารณะจากผู้ให้บริการ เช่น Microsoft Azure, Amazon Web Services (AWS), Google Cloud และอื่นๆ คุณจะสามารถขยายขีดความสามารถด้านไอทีของคุณได้เพิ่มขึ้น ทรัพยากรเพิ่มเติมเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจัดการเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา รักษาข้อตกลงระดับการบริการ (SLA) และข้อกำหนดเวลาทำงาน และมุ่งเน้นการส่งมอบด้านไอทีที่รวดเร็ว

จัดการปัญหาคอขวดของเครือข่าย

จัดการปิดช่องว่างบริการด้านไอทีและปัญหาคอขวดด้วยการเข้าถึงประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับส่วนประกอบที่คุณอัปเกรด เช่น การอัปเกรดไปใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® ที่ปรับขนาดได้ล่าสุดสามารถส่งมอบผลผลิตจากการคำนวณได้มากขึ้น การเพิ่มโซลิดสเตทไดรฟ์ Intel® Optane™ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณสามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพนี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคอขวดในชั้นของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

โดยการอัปเกรดอุปกรณ์ประมวลผล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและเครือข่ายพร้อมกัน คุณจะมั่นใจกับประสิทธิภาพด้านไอทีที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานของคุณ Scale IT Up tool จาก Intel ช่วยแสดงให้เห็นว่าการจัดการการอัปเกรดที่สำคัญในชั้นต่างๆ ทั้งหมดนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและการใช้ประโยชน์สูงสุดที่คุ้มค่ากับทุกดอลล่าร์ของการลงทุนอย่างไร

ปลูกฝังแนวคิดข้อมูลต้องมาก่อน

เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลเกิดขึ้นจริง องค์กรต่างๆ ต้องผนวกรวมสถาปัตยกรรมข้อมูล โมเดลการดำเนินงาน การปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยเข้าด้วยกัน กลยุทธ์ข้อมูลขององค์กรที่แข็งแกร่งจะเป็นตัวกำหนดวิสัยทัศน์อย่างชัดเจนสู่การมุ่งเน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมวัฒนธรรมการให้ความสำคัญกับข้อมูล และสร้าง "ข้อมูลเป็นการบริการ" เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายเมื่อจำเป็น

คุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของกลยุทธ์นี้คือ การสร้างช่องทาง “แอ่งข้อมูล (data puddles)” ต่างๆ จากทั้งองค์กรเข้าสู่ทะเลสาบข้อมูล (data lakes) ที่เกี่ยวข้อง ที่จุดนี้ ข้อมูลที่เชื่อถือได้จะมีอยู่ในทุกสายงานธุรกิจและกระบวนการธุรกิจ ทีมสามารถวิเคราะห์และแบ่งปันข้อมูลทั้งระบบผ่านอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (APIs) นอกจากนี้การวิเคราะห์ยังใช้ AI และเทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องกับข้อมูลเพื่อปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เนื่องจากข้อมูลได้รับการจัดการและติดตามตลอดทั้งองค์กร จึงมีความเสี่ยงต่อการโจมตีหรือการสูญหายลดลง

ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ขั้นสูงและ AI

การวิเคราะห์และ AI กำลังขับเคลื่อน การใช้งานขั้นสูง ในทุกตลาด โดยสามารถแก้ไขปัญหาความท้าทายทางธุรกิจที่ซับซ้อน สร้างความก้าวหน้าด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คาดคะเนเหตุการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภค และติดตามระบบและสายการผลิต การสร้างรากฐานสำหรับการวิเคราะห์หมายถึง การนำข้อมูลเข้าสู่จุดที่มีความต้องการมากที่สุด โดยหลักแล้วผ่านการจำลองและการรวบรวมชั้นจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานของข้อมูลสำหรับนักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนา

เมื่อพูดถึงการวิเคราะห์และ AI มีความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบันที่ทำให้นวัตกรรมใหม่ด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เกิดขึ้นได้ ตัวอย่างบางส่วนมีดังนี้:

  • ฮาร์ดแวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงกำลังขับเคลื่อน AI at the edge เพื่อลดความหน่วงและออฟโหลดภาระการประมวลผลจากศูนย์ข้อมูล เช่น Intel® Movidius™ VPUs ช่วยให้เกิดกระบวนการมองเห็นของเครื่องในกล้องถ่ายรูปอัจฉริยะและ Intel® FPGAs ที่สามารถใช้ในอุปกรณ์ edge เพื่อรองรับการใช้งาน 5G และ IoT ได้
  • ซอฟต์แวร์และเครื่องมือต่างๆ เช่น ชุดเครื่องมือ Intel® Distribution of OpenVINO™ ส่งมอบประสิทธิภาพที่ปรับให้เหมาะสมบนฮาร์ดแวร์ประเภทต่างๆ เพื่อให้นักออกแบบระบบและนักพัฒนามีตัวเลือกและความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการนำไปปรับใช้งาน
  • สำหรับแอปพลิเคชันการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง (HPC) ชุดเครื่องมือ Intel® oneAPI IoT (IoT Kit) มาพร้อมภาษาการเขียนรหัสทั่วไปสำหรับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยเร่งเวลาในการพัฒนาและความสามารถในการทำงานที่เข้ากันได้ผ่านวิธีการ “สร้างรหัสครั้งเดียว ใช้งานได้ทุกที่”

เพิ่มความสามารถในการจัดการอุปกรณ์ปลายทาง

PC ระดับธุรกิจ ส่งมอบแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อช่วยรับมือการคุกคามด้านความปลอดภัย รวมถึงคุณสมบัติการเข้ารหัสและการป้องกันอื่นๆ ที่ไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์หรือทำให้ประสิทธิผลของพนักงานลดลง เครื่องมือความสามารถในการจัดการช่วยให้แผนกไอทีจัดการกลุ่มอุปกรณ์พีซีได้ด้วยการจัดการแพตช์ ที่มีประสิทธิภาพและการแก้ไขปัญหาจากระยะไกล ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม

แพลตฟอร์ม Intel vPro® มอบความสามารถเหล่านี้เพื่อนำเสนออุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ แพลตฟอร์มประกอบด้วย Intel® Active Management Technology ซึ่งช่วยยกระดับไอทีให้เป็นบริการโดยช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถเข้าถึงและซ่อมแซมพีซีในระบบเครือข่ายได้จากระยะไกล และ Intel® Endpoint Management Assistant (Intel® EMA) สามารถขยายความสามารถเหล่านี้ได้โดยการเปิดใช้งานการจัดการอุปกรณ์บนคลาวด์ทั้งภายในและภายนอกไฟร์วอลล์ขององค์กร

ใช้การรักษาความปลอดภัยข้อมูลแบบหลายชั้น

เนื่องจากอุปกรณ์จำนวนมากขึ้นเชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กร พื้นหน้าการโจมตีโดยรวมจึงเพิ่มขึ้นด้วย วิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลแบบหลายชั้น ประกอบด้วยการป้องกันซอฟต์แวร์ เช่น antimalware ควบคู่กับ ความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ เครื่องมือการตรวจจับและแก้ไข นโยบายการจัดการความเสี่ยง และบุคลากรที่มีความรู้และได้รับการอบรมเป็นอย่างดี

ผลิตภัณฑ์ Intel® ออกแบบทางวิศวกรรมด้วยเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยในตัว เพื่อช่วยปกป้องพื้นหน้าการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้มีรากฐานมาจากซิลิคอน ซึ่งช่วยสร้างรากฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการประมวลผล ส่งผลให้คุณสามารถสนับสนุนกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงด้านไอทีและนโยบายองค์กรด้านไอทีได้ดีขึ้น เช่น แพลตฟอร์ม Intel vPro® มี ความปลอดภัย Intel vPro® ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่าระบบปฏิบัติการ (OS) และเพิ่มการตรวจจับการคุกคามขั้นสูง

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีเพิ่มความสามารถขององค์กรในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและระบบนิเวศผ่านการอัปเกรดไอทีเชิงกลยุทธ์ การลงทุนเหล่านี้ในอุปกรณ์ประมวลผล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและระบบเครือข่าย สามารถช่วยรักษาสมดุลต้นทุนกับประสิทธิภาพ และยังเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลด้วย

ขณะที่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลใช้ประโยชน์จาก AI การประมวลผล edge และเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อสร้างประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานและข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ การที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ทันสมัยและคล่องตัว ที่สามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและรวมเข้ากับรบบเทคโนโลยีการปฏิบัติการ (OT)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล

เทคโนโลยีและโซลูชั่นจาก Intel® สำหรับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอที

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีไม่ใช่แค่เพียงการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่เป็นวิธีการแบบองค์รวมร่วมกับการลงทุนที่พิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงกลยุทธ์ที่ไตร่ตรองแล้วที่ออกแบบมาเพื่อคาดคะเนและตอบสนองความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงในอุตสาหกรรมของคุณ อีกทั้งต้องคำนึงถึงความท้าทายที่เปิดกว้างจากการเพิ่มขึ้นของข้อมูลและภูมิทัศน์การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับการคุกคามทางดิจิทัลที่ซับซ้อน

ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในระบบนิเวศด้าน IT ที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่อุปกรณ์ปลายทางไปจนถึงศูนย์ข้อมูล การกำกับดูแลและนโยบายธุรกิจ Intel สามารถแนะนำคุณตลอดการเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านไอทีของคุณ เมื่อคุณมีเครื่องมือทั้งหมดที่คุณจำเป็นอย่างครบถ้วนในปัจจุบัน คุณก็จะสามารถรับมือกับโลกในอนาคตได้อย่างมั่นใจ